สอนเล่น Ukulele อูคูเลเล่
ส่วนประกอบต่างๆ ของ อูคูเลเล่
1. Tuners (ลูกบิด) ลูกบิด เป็นส่วนที่ใช้ในการตั้งสาย หรือขึ้นสายอูคูเลเล่ เพื่อให้ได้เสียงมาตรฐาน แน่นอนว่า
หากลูกบิดมีความแข็งแรง(หลวม)ไม่พอ ย่อมส่งผลให้การตั้งสายให้ตรงตามมาตรฐาน ย่อมเป็นไปได้ยาก
หลายท่านอาจจะเคยมีปัญหาในเรื่องนี้ ดังนั้น ลูกบิดจึงเป็นส่วนสำคัญมาก อย่าลืมตรวจสอบให้ดีก่อนซื้อนะครับว่า
ลูกบิด หรือ Tuners ทั้ง 4 ตัว มีความแข็งแรง ไม่หลวม และสามารถหมุดได้อย่างราบรื่น คือไม่ฝึด ไม่หลวมเกินไป
หากตรวจสอบพบว่า ลูกบิดหลวม/ฝึดเกินไป ทำให้ไม่ได้ตั้งเสียงให้ตรงตามมาตรฐาน(เสียงเพี้ยน)ได้ ก็ให้คุณวางลง
แล้วลองตัวใหม่ได้เลย เพราะมันจะสร้างปัญหาให้คุณ ภายหลังแน่นอน คุณคงไม่ยากเล่นอูคูเลเล่ เสียงเพี้ยนๆ ใช่ไหม
2. Headstock (หัวอูคูเลเล่) ส่วนหัว ของอูคูเลเล่ ส่วนนี้อาจจะไม่มีผลต่อเสียง แต่อาจจะมีผลทางด้านอารมณ์ความรู้สึก
ความสวยงาม สะมากกว่า แต่ใช่ว่า จะไม่สำคัญจนละเลย อย่างน้อย อูคูเลเล่ที่ได้มาตรฐาน ควรจะมี Headstock ที่แข็งแรง
ลองตรวจสอบดู ด้วยว่า Headstock แข็งแรง หรือไม่ มีรอยฉีก ร้าวหรือไม่ เป็นต้น
Headstock ส่วนมาก จะใช้ไม้เนื้อแข็งทำเพราะให้แข็งแรง ทนทานต่อแรงดึงของสาย
ไม้ที่นิยมนำมาใช้ทำส่วนนี้ คือ Indian Rosewood, Mahogany, เป็นต้น
3. Nut ส่วนนี้แม้จะเป็นชิ้นส่วนประกอบเล็กๆ แต่ทว่า มีความสำคัญไม่น้อยทีเดียว Nut
มีหน้าที่รองรับสายอูคูเลเล่ ในตำแหน่งด้านบน ใกล้กับ Headstock สิ่งที่คุณจะต้องตรวจสอบมันคือ อูคูเลเล่ตัวนั้น
เก็บรอยคมของ Nut หรือติดตั้ง Nut แข็งแรงดีหรือไม่ หากเก็บรอยคมของ Nut ไม่เรียบร้อย เวลาคุณจับคอร์ด
ขยับเล่นมือซ้ายไปมา คุณอาจจะรู้สึกว่า Nut มันบาดมือซ้ายคุณ ในส่วนของร่อง Nut ก็สำคัญ,
ร่อง Nut ควรจะเสมอกัน สังเกตได้ไม่ยากครับ เวลาที่คุณดีดสาย เมื่อสายอูคูเลเล่สั่น จะต้องดังเฉพาะตัวโน๊ตที่คุณดีด
ต้องไม่มีเสียงสั่นของโน๊ตตัวอื่นๆ ที่ไม่ต้องการ หากมีเสียงอื่นๆ หลุดรอดออกมา (ดังไม่เป็นตัวโน๊ต)
อาจจะเป็นไปได้ว่า ร่องนัทไม่เสมอกัน ส่วนมากโรงงานจะติด Nut ที่ทำจากพลาสติกมาให้ บางท่านหูทิพย์
บอกว่า... หากหันมาใช้ Nut ที่ทำจากกระดูก(สัตว์) จะให้เสียงที่กังวานกว่า วัสดุพลาสติก อันนี้แล้วแต่ครับ
หากเปลี่ยนแล้วให้ความรู้สึกที่ดีกว่า ก็เปลี่ยนไปเลย ตรงนี้ต้องบอกว่า เป็นเรื่องประสบการณ์ของผู้เล่นท่านนั้นๆ
4. Fret ส่วนประกอบนี้สำคัญทีเดียว หากเฟรต(Fret) ไม่เรียบ เก็บงานไม่เรียบร้อย เวลที่คุณจับคอร์ดนั้นๆ
เฟร็ตอาจจะบาดมือคุณได้ หรือไม่ คุณอาจจะรู้สึกว่า การเคลื่อนที่ของมือซ้ายทำได้ไม่ลื่นไหล ติดๆ ขัดๆ
ฉะนั้น ก่อนซื้ออูคูเลเล่ ต้องไม่ลืมใช้มือซ้ายกำที่บริเวณทั่วคอ ของอูคูเลเล่ และลองขยับขึ้นลง(หัวมาท้าย)
ลองดูสิว่า มือซ้ายเราโดนส่วนคมของเฟร็ต หรือไม่ วิธีนี้ สามารถช่วยตรวจสอบได้ว่า
อูคูเลเล่ ตัวนั้นๆ เก็บงานเฟรต เรียบร้อยดีหรือไม่
5. Finger Board ฟิงเกอร์บอร์ด จะทำจากไม้เนื้อแข็ง เพื่อให้ทนต่อแรงกด ของนิ้วมือซ้าย
ส่วนใหญ่อูคูเลเล่ ระดับราคากลางๆ จะนิยมใช้ไม้ Indian Rosewood, และ Mahogany, ถ้าเป็นอูคูเลเล่
ระดับราคาสูงๆ จะนิยมใช้ไม้ Ebony ฟิงเกอร์บอร์ดที่ดี ควรจะมีผิวหน้าไม้ที่เรียบเสมอกัน ซึ่งสังเกตได้ไม่ยาก
6. Neck ส่วนคอหรือ Neck ของอูคูเลเล่ ถือว่าสำคัญมากเช่นกัน ก่อนจะสอยอูคูเลเล่ตัวไหนมาครอง
ต้องดูส่วนคอให้ดี รอยต่อเข้ากันสนิทไหม และที่สำคัญที่สุดคือ คอตรงไหม ใช้วิธีการส่องดู...
โดยยกตัวอูคูเลเล่ขึ้นมาวางระนาบ ทำมุม 90 องศากับสายตา และส่องดู (แนวเดียวกับสายตา)
ลองดูว่า คอมันโค้ง(แอ่น) หรืองอ มาขนาดไหน

ตามรูปข้างบนนี้ แสดงให้เห็นถึง การโค้ง(แอ่น) งอ ของคออูคูเลเล่ ส่วนใหญ่คอ จะไม่ตรง(Straight)
แบบ 100% สะทีเดียว แต่จะมี Gap เล็กน้อย หากโค้ง(แอ่น) หรืองอ เล็กน้อย (ไม่เกิน 5%)
ถือว่าปกติ แต่หากโค้ง(แอ่น)หรืองอ มาก จะมีปัญหาทันที ปัญหาของคอโค้ง(แอ่น)หรืองอมากเกินไปคือ
การเกิดเสียง Buzz (บัส) หรือ Fret Buzz! คือการที่สายกระแทกเข้ากับเฟร็ต
คุณลองกดโน็ตตัวใดตัวหนึ่ง หรือคอร์ดใดคอร์ดหนึ่ง ทุกๆเสียง ของตัวโน็ต จะต้องชัดเจน ไม่มีเสียงอื่นมาแทรก
หากได้ยินเสียงสายไปกระแทกเข้ากับเฟร็ต นั่นคือ Buzz! วิธีแก้ไขพอมีครับ นั่นคือ เราจะต้องปรับระดับความสูง
ของระยะห่างระหว่าง สายกับเฟร็ต หรือที่เราเรียกว่า การปรับ Action
ซึ่ง... ครั้งหน้าผมจะมาแนะนำวิธีการปรับ Action ให้กับ Ukuelele ในครั้งนี้ขอข้ามไปก่อน
แต่บอกทิ้งท้ายไว้ก่อนว่า การปรับ Action ของอูคูเลเล่ ทำได้ไม่ง่ายเหมือนกับกีต้าร์
เพราะไม่มี Truss Rod(เหล็กดามคอ)เหมือนกีต้าร์ ดังนั้น หากเจอะอาการช้างต้น ก็ไม่ควรซื้ออูคูเลเล่ตัวนั้น
เลือกตัวใหม่ดีกว่า สรุปว่า ต้องตรวจเช็คคอด้วย ถ้าอูคูเลเล่ตัวนั้นๆ มีองศาคอที่ โค้งแอ่น หรืองอ มากเกินไป
ผมแนะนำให้วางไปเลย แล้วลองดูตัวใหม่ จะดีที่สุด
7. Body ส่วนของ Body หรือลำตัวของอูคูเลเล่ มีผลโดยตรงต่อเสียง นั่นหมายความว่า
หากอูคูเลเล่ สองตัว มี Body ที่แตกต่างกัน ย่อมให้เสียงที่แตกต่างกัน แน่นอน Body จะถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน
คือ ไม้หน้า(TOP) ไม้หลัง(BACK) และไม้ข้าง(SIDE) ซึ่งการเลือกใช้ไม้ที่แตกต่างกัน ย่อมส่งผลให้เสียงแตกต่างกันอย่างแน่นอน
หากใครอยากศึกษาเรื่องไม้ ที่มีผลต่อเสียงของอูคูเลเล่
รอยต่อของ Body ถือเป็นอีกสิ่งสำคัญ ผู้ซื้อจะต้องตรวจให้เรียบร้อย หากรอยต่อเข้ากันได้ไม่ดี ย่อมมีผลเสียในระยะยาว
8. Sound Hole คือแหล่งกำเนิดเสียง เป็นส่วนที่ทำให้อูคูเลเล่ เกิดเสียง ซึ่งผู้ผลิตส่วนใหญ่ จะนิยมทำ Sound hole
แบบวงกลม ซึ่งถือเป็นมาตรฐานที่นิยม แต่ก็มีบางผู้ผลิต ได้ทำ Sound Hold เป็นรูปแบบอื่นๆ เพราะต้องการซาวด์ที่แตกต่าง
จากอูคูเลเล่ทั่วไป ซึ่งทั้งหมด ขึ้นอยู่กับผู้เล่น ว่าจะชอบแบบไหน
9. Saddle หรือแท่งรองสาย saddle ส่วนใหญ่แบ่งเป็นสองประเภทหลักๆ คือ saddle ทีทำจากพลาสติก และกระดูก
ซึ่งบางท่านอ้างว่า สามารถฟังได้ออกว่า saddle แต่ละประเภทให้เสียงแบบไหน หลายๆ คนที่อ้างว่าฟังออก
ก็จะบอกว่า saddle กระดูกให้เสียงกังวาน หรือให้เสียงที่ดีกว่า saddle พลาสติก ผู้เขียนอยากบอกว่า
อันนี้เป็นเรื่องประสบการณ์ล้วนๆ หากท่านได้ลองเล่น มีประกบการณ์ฟังเยอะ ๆ ท่านก็อาจจะฟังอออกเช่นกัน
ดังนั้น เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องของความชอบของแต่ละท่าน หากเปลี่ยนจาก saddle ทีทำด้วยพลาสติก มาใช้เป็น saddle
ทีทำด้วยกระดูก แล้วรู้สึกดี ก็เปลี่ยนเลยครับ แต่ทำใจนิดว่า กระดูก ย่อมแพงกว่า พลาสติก
10. Bridge เราเรียกว่า สะพานสาย หน้าทีมันคือ ไว้รองรับสาย จากแรงดึง ดังนั้น Bridge ที่ดี ควรจะต้องมีความแข็งแรง
ไม่หลวม โดยเฉพาะบริเวณฐานของ Bridge ต้องแน่น เรียบ และแข็งแรง ซึ่งสำคัญมากๆ ต้องไม่ลืมที่จะตรวจสอบดูให้ดี
ก่อนที่ท่านจะซื้ออูคูเลเล่ อูคูเลเล่ ที่มีชื่อเสียงดี ระดับราคากลางๆ ไม่ค่อยพบปัญหานี้ แต่หากอูคูเลเล่ชื่อแปลกๆ
หรือระดับราคาล่างๆ จะต้องตรวจสอบให้ดี ผู้ผลิตส่วนใหญ่ จะนิยมใช้ไม้เนื้อแข็ง ทำ Bridge เพื่อให้ทนต่อแรงดึงของสาย
หวังว่าผู้อ่านจะได้ความรู้ขึ้นพื้นฐาน ในความเข้าใจถึงส่วนประกอบต่างๆ ของ Ukulele ไปไม่มากก็น้อย
หวังว่าทุกๆท่าน จะได้เลือกอูคูเลเล่ ที่ถูกใจ และได้คุณภาพตามมาตรฐาน นะครับ แล้วพบกันในบทความต่อๆ ไป
อ้างอิง:http://www.ukethai.com/ukulele-parts.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น